ทำไมเกษตรกรยุคใหม่จึงต้องมีโรงเรือน?
การเกษตรในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ล้วนหันมาใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมในการปลูกพืชได้อย่างแม่นยำ และหนึ่งในนวัฒกรรมที่เปลี่ยนชีวิตเกษตรกรไปตลอดกาล คือ โรงเรือนพลาสติก การปลูกพืชในปัจจุบัน ไม่ได้มีแค่เรื่องของการให้น้ำและใส่ปุ๋ยเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญมากคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พลาสติกโรงเรือนจึงกลายเป็นตัวช่วยหลักของเกษตรกรยุคใหม่ เพราะช่วยป้องกันแสงแดดที่รุนแรง ลดความเสียหายจากลมแรงและฝนตกหนัก อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาแมลงเข้ามาทำลายผลผลิตได้เป็นอย่างดี เมื่อพืชเติบโตในสภาพที่เหมาะสม ผลผลิตก็มีคุณภาพและได้ปริมาณตามที่ตั้งใจไว้
เกษตรกรรมแบบเดิม VS แบบโรงเรือน ใครได้เปรียบกว่ากัน?
การปลูกแบบเดิม
- ผลผลิตขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากฝนมากหรือแล้งจัดผลผลิตจะลดลงทันที
- ปลูกได้เฉพาะฤดูกาล ไม่สามารถมีรายได้ต่อเนื่องตลอดปี
- ศัตรูพืชและโรคเข้าทำลายง่าย ต้องใช้สารเคมีเยออะ
- คุณภาพผลผลิตไม่สม่ำเสมอ บางครั้งขายได้ราคาดี บางครั้งต้องขายขาดทุน
การปลูกแบบโรงเรือน
- ผลผลิตเพิ่มขึ้น 40% – 60% เนื่องจากควบคุมสภาพแวดล้อมได้
- ปลูกได้ตลอดปี ไม่ต้องรอฤดูกาล มีรายได้สม่ำเสมอ 12 เดือน
- ลดการใช้สารเคมี เพราะศัตรูพืชเข้าไม่ได้
- คุณภาพผลผลิตสูง สม่ำเสมอ ขายได้ราคาสูง
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวพับพลาสติกโรงเรือน (FAQ)
สามารถใช้กับระบบควบคุมอัตโนมัติได้ พลาสติกคลุมโรงเรือนใสสามารถใช้ร่วมกับระบบน้ำหยด พัดลมระบายอากาศ หรือเซนเซอร์ควบคุมอัตโนมัติได้ตามปกติ
โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2–3 ปี ขึ้นอยู่กับความหนาและการดูแลรักษา หากเป็นแบบผสมสาร UV จะยืดอายุได้นานกว่า โดยเฉพาะ “พลาสติกคลุมโรงเรือนของSAFARI” ที่มีการผสมสารป้องกันUV ถึง7% ซึ่งสูงที่สุดในท้องตลาด คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ…
คำตอบคือ “ใช้ได้ค่ะ” เพราะพลาสติกคลุมโรงเรือนช่วยควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ทำให้ปลูกพืชที่ปกติขึ้นยากในฤดูกาลนั้น ๆ ได้ คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ…
ได้ค่ะ พลาสติกโรงเรือน SAFARI ยังสามารถนำไปใช้คลุมแปลงผักชั่วคราว คลุมกันฝน หรือใช้ในงานเกษตรอื่น ๆ ได้ตามต้องการ
- พลาสติกคลุมโรงเรือนใส: ผลิตมาเฉพาะ มีสาร UV กันแดด ทนทาน ใช้งานกลางแจ้งได้นาน และช่วยควบคุมสภาพแวดล้อม
- พลาสติกธรรมดา: ไม่ผสมสารป้องกัน UV เสื่อมสภาพเร็ว ใช้กลางแจ้งไม่นานก็กรอบหรือขาด
สามารถช่วยได้ค่ะ เนื่องจากลดความเสียหายจากแดดจัด ฝนแรง และแมลงศัตรูพืช ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ…
“ทำไมพลาสติกโรงเรือนจึงคุ้มค่า”
- สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้กับพืชได้
- ลดความเสียหายจากแมลง ศัตรูพืช
- ลดการสูญเสียผลผลิตจากสภาพอากาศที่แปรปรวน
- ลดต้นทุนค่าปุ๋ย ยา และน้ำ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

การปลูกพืชในโรงเรือน ไม่ใช่แค่การใช้พลาสติกคลุมเพื่อป้องกันแดดหรือฝนเท่านั้น แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
ที่ช่วยให้เกษตรกรยุคใหม่จัดการการผลิตได้ง่ายขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่มั่นคงกว่าเดิม
ขนาดและสเปคพลาสติกโรงเรือน SAFARI ครบครันสำหรับทุกขนาดแปลง
ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรรายเล็กที่เพิ่งเริ่มต้น หรือเกษตรกรเชิงพาณิชย์ที่มีแปลงใหญ่ พลาสติกโรงเรือน SAFARI มีขนาดและความหนาหลากหลายให้เลือก ตอบโจทย์ทุกความต้องการและงบประมาณ
สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อพลาสติกคลุมโรงเรือน
ขนาดแปลง
- วัดพื้นที่ให้ชัดเจนก่อนสั่งซื้อ
- เผื่อขอบไว้ยึดแน่นประมาณ 20–30 ซม.
- ดูทิศทางแปลงให้เหมาะกับแสงแดด
ประเภทพืชที่ปลูก
- พืชใบเขียว → แนะนำความหนา 100–150 ไมครอน
- พืชผลไม้ → แนะนำความหนา 150–200 ไมครอน
- พืชเชิงพาณิชย์ → แนะนำความหนา 200–250 ไมครอน
งบประมาณ & ระยะเวลาใช้งาน
- ใช้งานระยะสั้น → เลือกแบบบาง ประหยัดต้นทุน
- ใช้งานระยะยาว → เลือกแบบหนา ทนทาน คุ้มค่ากว่า
พลาสติกโรงเรือน SAFARI
- ความกว้าง : 3 – 6 เมตร
- ความยาว : 50 – 100 เมตร / ม้วน
- ความหนา : 0.10 – 0.25 มิลลิเมตร (100 – 250 ไมครอน)
- ปริมาณสารป้องกันยูวี : 7% (สูงที่สุดในท้องตลาด)
- สี : สีขาวขุ่น
ขนาด 3 เมตร – พื้นที่ครอบคลุม 300 ตารางเมตร
จุดเด่น : ราคาประหยัด, เริ่มต้นง่าย, เปลี่ยนใหม่ได้บ่อย
กว้าง
ยาว
หนา
%UV
3 เมตร
100 เมตร
100 mc
7%
3 เมตร
100 เมตร
150 mc
7%
3 เมตร
100 เมตร
200 mc
7%
3 เมตร
100 เมตร
250 mc
7%
ขนาด 4 เมตร – พื้นที่ครอบคลุม 400 ตารางเมตร
จุดเด่น : ความทนทานดี, ราคาเหมาะสม, ใช้งานได้หลากหลาย
กว้าง
ยาว
หนา
%UV
4 เมตร
100 เมตร
100 mc
7%
4 เมตร
100 เมตร
150 mc
7%
4 เมตร
100 เมตร
200 mc
7%
4 เมตร
100 เมตร
250 mc
7%
ขนาด 5 เมตร – พื้นที่ครอบคลุม 250 ตารางเมตร
จุดเด่น : ทนทานสูง, ต้านลมแรง, คุ้มค่าระยะยาว
กว้าง
ยาว
หนา
%UV
5 เมตร
50 เมตร
100 mc
7%
5 เมตร
50 เมตร
150 mc
7%
5 เมตร
50 เมตร
200 mc
7%
5 เมตร
50 เมตร
250 mc
7%
ขนาด 6 เมตร – พื้นที่ครอบคลุม 300 ตารางเมตร
จุดเด่น : ทนทานสูงสุด, การันตีคุณภาพ, เหมาะธุรกิจ
กว้าง
ยาว
หนา
%UV
6 เมตร
50 เมตร
100 mc
7%
6 เมตร
50 เมตร
150 mc
7%
6 เมตร
50 เมตร
200 mc
7%
6 เมตร
50 เมตร
250 mc
7%
พลาสติกโรงเรือน SAFARI คุณภาพที่เกษตรกรมั่นใจ
- ผลิตจาก “เม็ดพลาสติกคุณภาพสูง” เนื้อเหนียว แข็งแรง และทนทาน
- ผสม สารป้องกันรังสี UV ถึง 7% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในท้องตลาด ช่วยให้พลาสติกทนแดดแรงและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงได้ดี
- อายุการใช้งานยาวนานกว่าพลาสติกทั่วไป ลงทุนครั้งเดียวคุ้มค่า
- มีหลายขนาดให้เลือก ทั้งความกว้างและความยาว เหมาะกับโรงเรือนทุกประเภท ตั้งแต่ครัวเรือนขนาดเล็กไปจนถึงโรงเรือนเชิงพาณิชย์
- บริการจัดส่งทั่วประเทศ รวดเร็วและมั่นใจได้
- มีทีมงานให้คำแนะนำก่อนและหลังการขาย พร้อมช่วยเหลือและตอบคำถามได้ตลอดเวลา
- ใส่ใจลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น เกษตรกรรายย่อยหรือผู้ประกอบการรายใหญ่
เคล็ดลับการเลือกซื้อพลาสติกโรงเรือนให้เหมาะกับงาน
การเลือกพลาสติกโรงเรือนที่ใช่ ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้พืชเติบโตได้ดี ผลผลิตออกมาสวย และใช้งานได้คุ้มค่า ถ้าเลือกถูกตั้งแต่แรกก็ช่วยประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนไปได้เยอะเลยค่ะ
วิธีเลือกง่าย ๆ มีดังนี้
- ดูว่าปลูกอะไร
ถ้าปลูกผักสลัด ควรเลือกพลาสติกที่โปร่งแสงพอสมควร แต่ถ้าเป็นไม้ดอกหรือพืชที่ไม่ชอบแสงจัด อาจต้องเลือกแบบที่ช่วยกรองแสงมากขึ้น - เลือกความหนาให้เหมาะ
พลาสติกหนาจะทนทานกว่า ใช้ได้นานกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานด้วย ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพพื้นที่และการลงทุนของเรา - ขนาดพลาสติกต้องพอดีกับโรงเรือน
เลือกความกว้างและความยาวที่ใกล้เคียงกับขนาดโรงเรือน จะช่วยให้ติดตั้งง่ายขึ้น ลดการต่อรอยพลาสติก และทำให้งานออกมาเรียบร้อยกว่า - อย่าลืมดูว่ามีสารป้องกัน UV หรือไม่
พลาสติกที่ผสมสาร UV จะช่วยป้องกันแดดแรง ๆ ไม่ให้พืชเสียหาย แถมยังช่วยยืดอายุพลาสติกให้ใช้ได้นานขึ้นด้วย - ถ้าไม่มั่นใจ ลองถามผู้เชี่ยวชาญ
เรามีทีมงานที่พร้อมให้คำแนะนำอยู่เสมอค่ะ แค่บอกว่าปลูกอะไร ขนาดโรงเรือนเท่าไร เราก็ช่วยแนะนำพลาสติกที่เหมาะกับงานของคุณได้เลย
ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายของ SAFARI ทำให้สามารถเลือกขนาดและความหนาที่เหมาะกับโรงเรือนได้ง่าย
ไม่ว่าจะเริ่มต้นหรือกำลังขยาย เรามีทีมงานที่พร้อมให้ข้อมูลและแนะนำสิ่งที่เหมาะกับการใช้งานค่ะ
ขอคำแนะนำในการเลือกซื้อพลาสติกโรงเรือนวิธีการติดตั้งพลาสติกโรงเรือนให้ทนทาน
การติดตั้งพลาสติกโรงเรือนถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะถึงแม้จะเลือกพลาสติกคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้ติดตั้งอย่างเหมาะสม ก็อาจทำให้พลาสติกเสียหายเร็วกว่าที่ควร การติดตั้งที่ถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และทำให้โรงเรือนของคุณใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
เคล็ดลับการติดตั้งให้พลาสติกอยู่ได้นาน
ขึงพลาสติกให้ตึงพอดี
- ไม่ควรหย่อนจนลมพัดแล้วกระพือ
- ไม่ควรตึงเกินไปจนเกิดแรงดึงตลอดเวลา
- การขึงที่พอดีจะช่วยลดการฉีกขาดและยืดอายุการใช้งาน
เลือกใช้อุปกรณ์ยึดที่แข็งแรง
- แนะนำให้ใช้คลิปล็อกหรือรางยึดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
- หลีกเลี่ยงการใช้ลวดหรือเชือกเส้นเล็ก ๆ เพราะอาจบาดพลาสติกได้
โครงสร้างต้องแข็งแรงและรับแรงลมได้
- โครงเหล็กหรือโครงไม้ควรมีความแน่นหนา
- รองรับแรงลมและน้ำฝนได้ดี เพื่อป้องกันพลาสติกจากการฉีกหรือหลุด
เว้นช่องระบายอากาศให้เพียงพอ
- ช่วยลดความร้อนและความชื้นภายในโรงเรือน
- ทำให้พลาสติกไม่เสื่อมสภาพเร็ว และยังช่วยให้พืชเติบโตได้ดีขึ้น
ตรวจเช็กและบำรุงรักษาเป็นระยะ
- หากมีส่วนที่คลายตัวหรือเริ่มชำรุด ควรซ่อมทันที
- การดูแลเล็กน้อยสม่ำเสมอ จะช่วยให้พลาสติกใช้งานได้ยาวนาน
หากต้องการให้พลาสติกคลุมโรงเรือนมีประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่นานขึ้น ควรติดตั้งสิ่งนี้ควบคู่ไปด้วย
- พลาสติกคลุมดิน : สำหรับป้องกันวัชพืชขึ้น ช่วยให้จัดการดูแลโรงเรือนง่ายขึ้น
- ตาข่ายกันแมลง / มุ้งไนล่อนขาว : ป้องกันแมลงเข้ามากัดกินผลผลิต
- สแลนกันแดด : ช่วยลดทอนแสงลง ให้พืชเจริญเติบโตได้ดี
วิธีดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน
พลาสติกโรงเรือน SAFARI ถูกผลิตให้มีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานอยู่แล้ว แต่หากมีการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น และทำให้คุณคุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่าเดิม การดูแลนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยเป็นประจำ ก็ช่วยให้พลาสติกโรงเรือนอยู่กับคุณได้นานยิ่งขึ้น
เคล็ดลับดูแลพลาสติกโรงเรือน
ทำความสะอาดเป็นประจำ
- ใช้น้ำสะอาดหรือผ้าชุบน้ำเช็ดคราบฝุ่น คราบน้ำฝน หรือคราบตะไคร่ออก
- ช่วยให้พลาสติกโปร่งใส รับแสงได้เต็มที่ และดูใหม่อยู่เสมอ
ตรวจสอบจุดยึดสม่ำเสมอ
- เช็กว่าคลิปล็อก รางยึด หรือเชือกที่ใช้ ยังแน่นและไม่บาดพลาสติก
- การแก้ไขทันทีเมื่อพบความหย่อน จะช่วยป้องกันการฉีกขาดจากแรงลม
ซ่อมแซมทันทีหากพบรอยขาดเล็ก ๆ
- ใช้เทปซ่อมพลาสติกหรือวัสดุที่เหมาะสมปิดรอยขาด
- ป้องกันไม่ให้รอยขาดขยายตัวจนเสียหายมากขึ้น
จัดการสิ่งแวดล้อมรอบโรงเรือน
- ตัดแต่งกิ่งไม้หรือวัสดุแหลมคมที่อาจเสียดสีกับพลาสติก
- ลดความเสี่ยงจากการฉีกหรือขาดโดยไม่จำเป็น
หมั่นตรวจสอบหลังฝนตกหรือพายุ
- หากมีน้ำขังบนพลาสติก ควรระบายออกเพื่อไม่ให้เกิดแรงกดทับ
- ตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างและการยึดพลาสติกเพิ่มเติม
ราคาพลาสติกโรงเรือน
* ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาติดต่อสอบถามราคาก่อนสั่งซื้อสินค้าทุกครั้ง
กรณีลูกค้าซื้อจำนวนมาก ติดต่อสอบถามส่วนลดก่อนสั่งซื้อนะคะ
- พลาสติกโรงเรือน0.10มิลลิเมตร x 3เมตร x 100เมตร
ราคา
3,769 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.15มิลลิเมตร x 3เมตร x 100เมตร
ราคา
5,653 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.20มิลลิเมตร x 3เมตร x 100เมตร
ราคา
7,537 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.25มิลลิเมตร x 3เมตร x 100เมตร
ราคา
9,421 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.10มิลลิเมตร x 4เมตร x 100เมตร
ราคา
5,025 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.15มิลลิเมตร x 4เมตร x 100เมตร
ราคา
7,537 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.20มิลลิเมตร x 4เมตร x 100เมตร
ราคา
10,049 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.25มิลลิเมตร x 4เมตร x 100เมตร
ราคา
12,562 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.10มิลลิเมตร x 5เมตร x 50เมตร
ราคา
3,769 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.15มิลลิเมตร x 5เมตร x 50เมตร
ราคา
5,530 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.20มิลลิเมตร x 5เมตร x 50เมตร
ราคา
7,292 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.25มิลลิเมตร x 5เมตร x 50เมตร
ราคา
7,537 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.10มิลลิเมตร x 6เมตร x 50เมตร
ราคา
4,013 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.15มิลลิเมตร x 6เมตร x 50เมตร
ราคา
5,889 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.20มิลลิเมตร x 6เมตร x 50เมตร
ราคา
7,765 บาทต่อม้วน
- พลาสติกโรงเรือน0.25มิลลิเมตร x 6เมตร x 50เมตร
ราคา
9,625 บาทต่อม้วน